16 พฤศจิกายน 2554

อาหารแสลงของเบาหวาน

          มาย้อนหลังวันเบาหวานโลกกันซะหน่อย กับอาหารที่กินแล้วแสลงกับคนเป็นเบาหวานค่ะ

          ดูประวัติกันก่อนว่าทำไมต้องมีวันเบาหวานโลกกันนะ... 

          โรคเบาหวานถูกจัดให้เป็นสาเหตุของการตายเป็นอันดับ ๓ ของโรคไม่ติดเชื้อที่เป็นอันตรายถึงชีวิต โรคแทรกซ้อนที่สำคัญของผู้ป่วยเบาหวานที่เป็นสาเหตุของการตาย คือ โรคไตวาย โรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน นอกจากนี้ผู้ป่วยเป็นเบาหวานมีโอกาสตาบอด เนื่องจากจอประสาทตาเสื่อมสูงกว่าคนปกติถึง ๒๕ เท่า และมีโอกาสถูกตัดขาด เนื่องจากเกิดแผลตายเน่าที่เท้ามากกว่าคนปกติถึง ๔๐ เท่า

           มีประชากรกว่า ๑๐๐ ล้านคนทั่วโลกป่วยเป็นโรคเบาหวาน โดยเฉพาะในเอเชีย มีจำนวนถึง ๕๐ ล้านคน ทำให้แต่ละประเทศต้องใช้งบประมาณด้านสาธารณสุขประมาณ ๕% ต่อปี เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาดูแลเบาหวานซึ่งโดยทั่วไปแล้วไม่ใช่ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับยารักษาโรคเบาหวาน แต่เป็นค่าใช้จ่ายในการควบคุมรักษาโรคแทรกซ้อนจากเบาหวาน เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน โรคไตวาย การฟอกไต การเปลี่ยนไต โรคอัมพาต ตาบอด รวมทั้งการที่ต้องถูกตัดขา เนื่องจากโรคเบาหวาน ซึ่งก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยเป็นอย่างมาก
           ดังนั้นองค์การอนามัยโลกและสมาพันธ์โรคเบาหวานนานาชาติ จึงจัดให้มีวันเบาหวานโลกขึ้นเมื่อวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ค.ศ. ๑๙๙๑ และกำหนดให้วันที่ ๑๔ พฤศจิกายนของทุกปี เป็นวันเบาหวานโลก เพื่อให้องค์กรสาธารณสุขทั่วโลกได้ตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันและควบคุมโรคเบาหวาน โดยชักชวนให้หน่วยงานสาธารณสุขทั่วโลกจัดกิจกรรมส่งเสริม สนับสนุน ให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกัน ควบคุมและรักษาโรคเบาหวานให้กับประชาชนทั่วไป 
          ประชากรโรคเบาหวานในเมืองไทยเพิ่มสูงขึ้นมากอย่าง น่าเป็นห่วง เฉพาะที่ตรวจคัดกรองแล้วพบว่าเป็นโรคมีมากถึง 21 ล้านคน และเฉพาะคนแก่ที่เป็นโรคก็นับได้อีกเกือบ 3 ล้านคนเลยทีเดียว
          ตัวเลขผู้ป่วยพุ่งสูงขนาดนี้ เห็นทีต้องหันมาใส่ใจดูแลผู้ป่วยใกล้ตัวกันมากขึ้น โดยสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่มักถูกลืมนั่นก็คือ 

          อาหารแสลงที่คนเป็นเบาหวานต้องหลีกเลี่ยง อัน ได้แก่ แครอท มัน เผือก ฟักทอง รวมทั้งพืชหัวอื่นๆ เพราะเป็นแหล่งของแป้ง ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นน้ำตาลในร่างกาย จนทำให้คุณได้รับน้ำตาลเกินขนาดนั่นเอง


         ส่วนอาหารที่เป็นมิตรกับเบาหวานและควรรับประทานเสมอก็คือ
ผัก และผลไม้น้ำตาลต่ำ อย่างแอปเปิ้ล มะเขือเทศ รวมทั้งอาหารทะเล และถั่วต่างๆ ทราบอย่างนี้แล้วคงช่วยให้เลือกรับประทานได้ง่ายขึ้นนะคะ


ที่มา กลุ่มนักศึกษาฝึกงาน งานพัฒนาและจัดการสารสนเทศ ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศห้องสมุด 
       และ Health & Cuisine

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น